SAMART โชว์โครงการเด่น เสริมโอกาสทางธุรกิจ พร้อมปักหมุดส่ง SAV เข้าตลท.เดือน มี.ค ปีหน้า
กลุ่มสามารถ ประกาศครึ่งปีหลังมีโครงการที่เป็นโอกาสสร้างรายได้อีกเพียบ โดยเฉพาะกลุ่ม ICT เซ็นต์สัญญาพร้อมมีงานในมือแล้วกว่า 9 พันล้านบาท ส่วน SDC ต้อนรับโครงการใหม่ Premium free WIFI ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างรายได้ให้ SDC ให้กลับมาพลิกฟื้นสร้างรายได้ระยะยาวต่อไป พร้อมประกาศความคืบหน้าการนำบริษัทลูก “สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์” ที่ปัจจุบัน ยื่นไฟล์ลิ่งเรียบร้อยแล้ว พร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มีนาคม ปีหน้า นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น ได้เปิดเผยถึงความสำเร็จในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา และโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆว่า “กลุ่มบริษัทสามารถ มีผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปี 2562 เป็นไปตามเป้าหมาย โดยสายธุรกิจ ICT ยังคงเป็นแหล่งรายได้หลัก ซึ่งปัจจุบันมีโครงการในมือแล้วมูลค่ารวมกว่า 9 พันล้านบาท จากโครงการขนาดใหญ่ อาทิ โครงการออกแบบ จัดหา พัฒนา ติดตั้ง และดูแลบำรุงรัษาระบบคอมพิวเตอร์ซอฟแวร์สำเร็จรูปสำหรับธุรกิจของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ,โครงการของทีโอที ,โครงการของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME) สำหรับช่วงที่เหลือของปี 2562 บริษัทยังมีโอกาสเข้าประมูลโครงการรวมมูลค่าราว 1 หมื่นล้านบาท อาทิ โครงการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้าน Finance Solution ให้กับลูกค้ากลุ่มธนาคาร ,โครงการของกรมสรรพสามิต ,โครงการของกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น” ส่วน “บมจ.สามารถดิจิตอล” หรือ SDC ซึ่งหลังจากพลิกฟื้น และมีโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งจาก โครงการติดตั้งโครงข่ายวิทยุคมนาคมระบบดิจิทัล และเสาโทรคมนาคม ในกรมอุทยาน ก็เริ่มทยอยรับรู้รายได้ รวมถึงโครงการ Digital Trunk Radio หรือบริการวิทยุสื่อสารคมนาคมระบบดิจิทัล ที่ปัจจุบันมีลูกค้ารายใหญ่ เช่น การท่าเรือแห่งประเทศไทย กรมป้องกันสาธารณภัย เป็นต้น โดยในปีหน้าตั้งเป้าจำหน่ายไว้ประมาณ 6 หมื่นเครื่อง จากกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจ โดยชูบริการเสริมที่สร้างโอกาสทางธุรกิจ และสร้างความคุ้มค่าให้กับกลุ่มลูกค้า อาทิ กลุ่มผู้ประกอบการเดินเรือ มีบริการ Tourism Boat Tracking System หรือระบบติดตามเรือนำเที่ยว ให้กับเรือในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเล เพื่อเป็นเครื่องมือในการเฝ้าระวังให้กับเจ้าหน้าที่ และสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ที่สำคัญ SDC ยังมีโครงการใหม่ ซึ่งจะสร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการติดตั้งอุปกรณ์ไวไฟทั่วประเทศ หรือ Premium free WIFI ซึ่งจับมือ กับ CATBUZZ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ CAT ในการทำตลาด โดย SDC จะมีรายได้จากการเข้าไปหาพื้นที่และติดตั้งอุปกรณ์ไวไฟ พร้อมดูแลรักษาตลอด 5 ปี (นับจากติดตั้ง) โดยตั้งเป้าติดตั้งจำนวน 10,000 จุด ภายในปี 2020 ล่าสุดได้บรรลุข้อตกลงกับกรมอาชีวะ ในการติดตั้งอุปกรณ์ไวไฟในสถาบันอาชีวะ 428 แห่ง ด้าน U-Trans ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านพลังงานและสาธารณูปโภค โดย บริษัท เทด้า ได้มีการเซ็นต์สัญญาในโครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้า และโครงการสายไฟฟ้าลงดิน รวมมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาทแล้ว ยังมีโอกาสในการเข้าประมูลโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินอีกหลายเส้นทาง และยังมองหาธุรกิจใหม่ๆด้านการจัดการพลังงานด้วย ส่วนความคืบหน้าการนำบริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ SAV เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ปัจจุบันผ่านขั้นตอนการยื่นแบบคำขอ และร่างหนังสือชี้ชวนต่อกลต. เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายหุ้นได้ในช่วงเดือนมีนาคม 2563 “SAV จะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทที่ 5 ของกลุ่มบริษัทสามารถ โดยเน้นลงทุนในบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิก เซอร์วิส จำกัด หรือ CATS ซึ่งได้รับสัปทานจากรัฐบาลกัมพูชาในการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศ ทั่วน่านฟ้ากัมพูชา เป็นเวลารวม 39 ปี นับจากปี 2545 ถึง 2584 ทั้งนี้การนำ SAV เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นการ Unlock Value คือ การสะท้อนมูลค่าที่ควรจะเป็น และเหมาะสม ของ CATS โดย วัตถุประสงค์ของการระดมทุน ก็เพื่อเพิ่มเงินทุนหมุนเวียน ชำระคืนเงินกู้ ลดภาระดอกเบี้ย และรองรับการขยายธุรกิจใหม่ๆของกลุ่มบริษัทสามารถในอนาคต” นายวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้าย